คนส่วนใหญ่มักจะมีความคิดว่า
การออกกำลังกายคือบทลงโทษ
หลังจากที่เรามีความสุขจากการกินมาแล้ว
เบเบ้อยากจะให้เปลี่ยนความคิดนี้ใหม่
การออกกำลังกายมันต้องเป็นหนทาง
สู่เป้าหมายของเราซึ่งเป็นรางวัลชีวิต
เพราะฉะนั้น
หนทางสู่เป้าหมายของเราที่เป็นรางวัลชีวิตเนี่ย
มันควรจะเป็นอะไรที่สนุก เราอยากจะทำ
&nbsp;
สวัสดีค่ะ เบเบ้ ธันย์ชนกค่ะ
Fitness Influencer และ Online Trainer ค่ะ
วันนี้ใน CI Talks นะคะ
เบเบ้จะมาแชร์ประสบการณ์
การออกกำลังกายของเบเบ้ให้ฟังกันค่ะ
&nbsp;
จริงๆ แล้วจุดเปลี่ยนของเบเบ้เนี่ย
มันเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
ก็คือตอนนั้นเนี่ยเรามีแพลนที่จะแต่งงาน
กับว่าที่สามีของเรา
ซึ่งมันก็เป็น norms ทั่วไปของคู่แต่งงาน
ที่พอเรามีการเซ็ตวันแต่งงาน
ก็ถึงเวลาที่เราต้องเตรียมตัวแล้ว
เราก็จูงมือกันไปสมัครฟิตเนส
แล้วก็จ้าง Personal Trainer เทรนคู่กัน
เป็นครั้งแรกในชีวิต
เพราะว่าตอนแรกเลยที่เบเบ้ตั้งเป้าหมาย
เรื่องรูปร่างใช่ไหมคะ
ตอนที่เราจะแต่งงาน
พอประมาณปีสองปีเนี่ย
เราเริ่มได้รูปร่างที่เราพอใจมากๆ แล้ว
ก็เหมือนกับว่าเป้าหมายตอนนั้นมันไปถึงแล้ว
พอเราไปถึงแล้วมันก็เป็นธรรมดา
ที่เราก็จะต้องมีการตั้งเป้าหมายใหม่
หรือเปลี่ยนเป้าหมายบ้างใช่ไหมคะ
แล้วเป้าหมายใหม่ของเราเนี่ยมันกลาย
เป็นเรื่องของความ Challenge
ความท้าทายของการออกกำลังกาย
การทำท่ายากได้ อย่างเช่น
การดึงข้อเราก็อยากทำได้
เราก็ไปฝึก ไปดึงข้อ หรือท่าอื่นที่มันยากๆ&nbsp;
มันเริ่มเป็นความท้าทายของการออกกำลังกายมากกว่า
หลังจากที่เราได้คลุกคลีกับ
เรื่องของการออกกำลังกาย
คนรอบข้างเราก็เห็นความเปลี่ยนแปลง
ก็จะมีการถาม ขอคำแนะนำบ้าง
ถามในเรื่องของทริคการออกกำลังกาย
หรือว่าอยากจะให้เราช่วยแนะนำเขา
ดึงเขาให้มาออกกำลังกายบ้าง
มันก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นให้เบเบ้เริ่มทำเพจ
ที่ใช้เป็นช่องทางในการโพสต์
คลิปที่เบเบ้ออกกำลังกาย เพื่อแชร์ประสบการณ์
หรือแชร์ท่าออกกำลังกาย
ให้คนที่ติดตามเราได้ดู
มันก็เลยยิ่งเป็นการเติมไฟให้เราในด้านนี้
ให้มี Passion ที่มันหนักมากขึ้น
และเราอยากที่จะทำให้มันเป็นอาชีพของเราด้วย
&nbsp;
การออกกำลังกายที่ดีของแต่ละคน
มันจะไม่เหมือนกัน
ดีของเบเบ้ อาจจะไม่ดีสำหรับทุกคน
หรือว่าดีของคนอื่น
อาจจะไม่ได้เหมาะกับเบเบ้นะคะ
ซึ่งเราก็ดูง่ายๆ ว่า
การออกกำลังกายที่ดีสำหรับเราเนี่ย
มันจะต้องเป็นสิ่งที่เราชอบ
มันจะต้องเฉพาะบุคคลกับเรา
แล้วก็เลือกให้มันสนุก
ให้มันสะดวก ทำได้นานๆ&nbsp;
แล้วก็ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราด้วยค่ะ
&nbsp;
หลายคนเนี่ยอาจจะมีความคิดว่า
สุขภาพดีเท่ากับรูปร่างดี
ซึ่งจริงๆ แล้วเนี่ยมันเป็นสองเรื่อง
ที่ค่อนข้างแยกจากกันชัดเจนนะคะ
บางทีเราอาจจะมองว่า
เห็นคนนี้ตื่นมาวิ่ง เข้าฟิตเนสประจำเลย
เป็นหลายๆ ปีแล้ว
ทำไมไม่เห็นผอมเลย
ทำไมไม่เห็นมี 6packs
ทำไมไม่เห็นมีกล้ามชัดเจน ตัว lean เลย
ซึ่งเป้าหมายของเขาอาจจะไม่ใช่แบบนั้นก็ได้
แต่ว่าเขามีสุขภาพที่ดี
แต่ว่าสำหรับบางคนเนี่ย
เขาอาจจะตัวผอม
รูปร่างดี เป็นหุ่น เป็นเอว เป็นก้น แบบนี้
ด้วยพันธุกรรมของเขาด้วยซ้ำ
โดยที่ชีวิตของเขาเนี่ย
มันอาจจะไม่ได้เฮลท์ตี้ด้วยซ้ำ
เพราะฉะนั้นสองเรื่องนี้เนี่ย
มันจะต้องแยกออกจากกันให้ชัดเจน
&nbsp;
วันนี้เบเบ้ก็เลยมี 5 เทคนิค
สู่ความสำเร็จของการออกกำลังกายมาฝากกัน
&nbsp;
ข้อ 1 ทำความรู้จักกับวินัย
คำว่าวินัยเนี่ย
มันไม่สามารถที่จะสร้างขึ้นมา
หรือทำให้มันเกิดได้แค่วันเดียวนะคะ
เพราะฉะนั้นเราต้องค่อยๆ ฝึก
ค่อยๆ ฝึกฝนมัน
ค่อยๆ เก็บเกี่ยวมันไปทีละนิดนะคะ
เทคนิคของเบเบ้ก็คือ
อยากจะให้ทุกคนแพลน
แล้วก็ทำทุกอย่างให้มันลิงก์กับเวลา
ตั้งนาฬิกาเลย
ตื่นกี่โมง กินข้าวกี่โมง จะออกกำลังกายกี่โมง
ไปทำงานกี่โมง กลับบ้านกี่โมง นอนหลับกี่โมง
คือตั้งทุกอย่างให้ลิงก์กับเวลา
แล้วก็พยายามทำให้มันสำเร็จไปทีละขั้น ทีละวัน
ก็จะช่วยฝึกวินัยของเราให้มันเกิดขึ้นได้ค่ะ
&nbsp;
ข้อ 2 ก็คือตั้งเป้าหมายเล็กๆ ค่ะ
อย่างเช่นว่า
วันนี้เราตั้งเป้าหมายแล้วว่า
เราจะต้องตื่นขึ้นมาแต่เช้า
ไม่โอ้เอ้บนเตียง ต้องลุกขึ้นมาจากเตียงให้ได้
วินาทีที่เราลุกขึ้นมาจากเตียง
เป้าหมายหนึ่งสำเร็จ
หลังจากนี้ตั้งใจว่าต้องออกกำลังกายให้ได้
อย่างน้อยอาจจะแค่ 15 นาทีก็พอ
แบบเล็กๆ สั้นๆ ก่อน
เราได้ปุ๊บ เช็ค
จากนั้นพรุ่งนี้ทำเหมือนเดิมเลย
แต่ว่าจะเพิ่มจาก 15 นาที เป็น 30 นาที
ทำได้ปุ๊บ เป้าหมายที่สองเช็ค
ตัวเป้าหมายเล็กๆ เนี่ยมันสำคัญมาก
หลายคนอาจจะมองข้าม
แต่จริงๆ แล้ว ถ้าเราทำความสำเร็จ
ได้ในเป้าหมายเล็กๆ&nbsp;
มันจะเป็นเหมือนกำลังใจให้เราเดินต่อไปได้ค่ะ
&nbsp;
ข้อ 3 นะคะ
เปลี่ยนสิ่งของรอบตัวให้เป็นอุปกรณ์ออกกำลังกาย
ง่ายๆ ก็คือเราตัดข้ออ้างเรื่อง
ไม่มีอุปกรณ์ออกไป
เราสามารถอยู่บ้านออกกำลังกายได้
โดยการใช้ของใช้ในบ้านของเรา
เช่น ขวดน้ำ 1.5 ลิตร ก็เอามาแทนดัมเบลล์
อย่างโต๊ะเนี่ย ถ้าเบเบ้ใช้บ่อยๆ เนี่ย
จะชอบเอามาจับคล้ายกับบาร์นะคะ
แล้วก็เตะขา ย่อขา&nbsp;
ทุกอย่างที่มันต้องเป็นการทรงตัว
แล้วเราไม่อยากทรงตัวด้วยตัวเอง
ก็แตะมันเบาๆ แบบนี้นะคะ
หรือว่าอาจจะใช้เป็นหลักในการ push-up ก็ได้
มันปรับใช้ได้หมดเลย
อยู่ที่ว่าเราอยากทำหรือเปล่าเท่านั้นเอง
&nbsp;
ข้อ 4 คือการออกกำลังกายแบบรักตัวเอง
คืออย่าไปกดดันตัวเองมาก
อย่าไปหักโหมมาก
ให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนบ้างนะคะ
ถ้าเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกว่า
ออกกำลังกายแล้วมันทุกข์ มันไม่มีความสุข
หยุดพักก่อนได้นะคะ พยายามปรับเปลี่ยนดู
เลือกกิจกรรม เปลี่ยนกิจกรรม
อย่างที่บอกว่ากิจกรรมมันมีหลายอย่างมาก
ต้องมีสัก 1 2 3 อย่างที่มันถูกใจเรา
ที่เราทำแล้วมันมีความสุข
&nbsp;
ข้อ 5 นะคะ คืออยากจะให้ทุกคน
เปลี่ยนความคิดใหม่ว่า
อาหารไม่ใช่รางวัล
และการออกกำลังกายไม่ใช่บทลงโทษ
อาหารมันก็ไม่ใช่รางวัลเสมอไป
ไม่อย่างนั้นเราจะมีโมเมนต์ที่แบบ
ไปกินข้าว กินบุฟเฟต์แล้วยัดเข้าไปให้เยอะที่สุด
แล้วสุดท้ายคือลุกไม่ได้ เต็มท้อง จุกที่คอเลย
ถ้าอาหารมันเป็นรางวัลจริงๆ&nbsp;
เราถึงมีความคิดว่าไม่น่าทำมันเลย
เพราะฉะนั้นแล้วอาหารก็ไม่ใช่รางวัลค่ะ
ส่วนการออกกำลังกายก็ไม่ใช่บทลงโทษนะคะ
แต่เป็นหนทางสู่ความสำเร็จของเรา
มีความสุขกับมันให้ได้เยอะที่สุด
&nbsp;
สุดท้ายคือเบเบ้
สามารถเปลี่ยนการออกกำลังกาย
ที่มันเป็นแค่ความชอบเนี่ย
ให้มันเปลี่ยนเป็นอาชีพสำหรับตัวเองได้
เพราะว่า อย่างแรกเลยคือ
เบเบ้ค่อนข้างที่จะทุ่มเททั้งเวลา ทั้งแรงกาย
ในการฝึกการออกกำลังกาย
แล้วก็ไม่ใช่แค่ฝึกร่างกายเฉยๆ
แต่ว่าไปลงเรียนเพิ่มเติม เอาใบ Certification
เรียนให้มันรู้ถึงดีเทลต่างๆ
สาเหตุที่เราต้องทำแบบนี้
ให้มันเป็นความรู้จริงๆ
แล้วก็เปลี่ยนจากความชอบ
ให้กลายเป็นอาชีพในทุกวันนี้ค่ะ
&nbsp;
แล้วพบกันใน CI Talks

Articles

ตกหลุมรักการออกกำลังกาย

Articles

ตกหลุมรักการออกกำลังกาย

จดหมายข่าว

เรื่องที่จุดประกายการเปลี่ยนแปลง